ลูกหนี้ กยศ.ร้องสภาผู้บริโภค กองทุนให้กู้ยืมฯ ปรับโครงสร้างหนี้ไม่เป็นไปตามกม.ใหม่ ทำให้ต้องจ่ายหนี้เพิ่ม
รายงานจากสภาผู้บริโภค แจ้งว่า แม้ในช่วงที่ผ่านมาจะมีผู้กู้เงินผ่านกองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา (กยศ.) จำนวนมากที่ได้รับการปรับโครงสร้างหนี้ตามที่ พ.ร.บ. กยศ. (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2566 ฉบับใหม่กำหนด
ขณะเดียวกัน ยังมีผู้กู้เงิน กยศ.บางราย เข้ามาร้องเรียนกับสภาผู้บริโภคว่า ต้องชำระหนี้โดยที่ไม่ทราบยอดหนี้ที่แท้จริง บางรายต้องชำระหนี้โดยที่หนี้นั้นอาจหมดไปแล้วเมื่อคำนวนยอดหนี้ตามที่กฎหมายใหม่กำหนด หรือบางรายต้องแจ้งขอปรับโครงสร้างหนี้ หรือ ประนอมหนี้ในชั้นศาลโดยที่ไม่ได้อยู่บนพื้นฐานของยอดหนี้ที่แท้จริงนั้น
หนึ่งในผู้กู้เงิน กยศ. เปิดเผยว่า เริ่มใช้หนี้ของกองทุน กยศ. มาตั้งแต่ปี 2548 รวมจำนวนประมาณ 3.6 แสนบาท ซึ่งระหว่างนั้นมีปัญหาทางการเงินทำให้ต้องเสียเบี้ยปรับ แต่เมื่อรวบรวมเงินก้อนได้จำนวนหนึ่งจึงนำมาตัดยอดหนี้กยศ.บางส่วน จึงคาดหวังว่าเมื่อ กยศ. มีการปรับโครงสร้างหนี้ฯ จะทำให้ภาระในการชำระหนี้ลดลง และคาดว่าจะได้รับเงินคืนประมาณ 6 หมื่นกว่าบาท
แต่เมื่อส่งหนังสือทวงถามไปที่ กยศ. ได้คำตอบว่า จะมีการดำเนินการให้ โดยให้ลงทะเบียนอีกครั้งในวันที่ 1 ตุลาคม 2567
“กยศ. พูดเสมอว่า เป็นหน่วยงานที่ให้โอกาสทางการศึกษากับผู้กู้ยืม ซึ่งเราเองก็อยากได้รับโอกาสนั้น จึงอยากให้ กยศ. คิดยอดหนี้ตามที่กฎหมายฉบับใหม่กำหนด ซึ่งจะเป็นคุณกับผู้กู้รุ่นก่อน ๆ เราคิดเสมอว่า เมื่อเรามีกำลังทรัพย์เพิ่มขึ้น เรามีความคิดที่จะปิดหนี้ทันที เพื่อส่งต่อโอกาสให้รุ่นน้องและเพื่อไม่ให้กลายเป็นข้อกล่าวหาว่า ผู้กู้ไม่ได้อยากชําระหนี้ ในความจริงแล้วผู้กู้ทุกคนอยากชําระหนี้ แต่คิดว่าการชำระหนี้ควรเป็นไปอย่างถูกต้องและเป็นธรรมตามกฎหมาย” ผู้กู้ กยศ. รายดังกล่าวได้เปิดเผย
ผู้กู้เงิน กยศ. อีกหนึ่งราย เล่าว่า เมื่อก่อนชำระเงินให้กับกองทุน กยศ. รวมกับอัตราดอกเบี้ย ซึ่งรวมไปถึงเบี้ยปรับที่มีอัตราที่สูงมาก แต่เมื่อมีการออกกฎหมายใหม่ ทำให้เกิดความหวังว่า การคำนวณยอดหนี้จะถูกคำนวณโดยอ้างอิงกฎหมายฉบับนี้
แต่กลายเป็นว่า ขณะนี้ กองทุน กยศ. ยังไม่มีการคํานวณยอดหนี้ที่ถูกต้องให้ทราบ และเมื่อลองคำนวณยอดหนี้ของตัวเอง โดยอิงกับกฎหมายฉบับใหม่ พบว่า ยอดหนี้เป็นคนละยอดกับที่ กยศ. แจ้งในระบบ เช่น กยศ. แจ้งในระบบว่า มียอดหนี้จำนวนประมาณ 3.4 แสนบาท แต่ยอดที่ตนเองคํานวณตามกฎหมายใหม่จะอยู่ที่ประมาณ 2.9 แสน
ซึ่งการที่กยศ.ไม่ปรับยอดหนี้ให้ตามกฏหมายใหม่ ทำให้ขณะนี้ตนเองต้องชำระหนี้ทุกเดือนตามปกติ จึงรู้สึกว่าไม่ได้รับความเป็นธรรม
“กองทุน กยศ. มักจะอ้างวาทกรรมว่า รุ่นพี่ไม่ยอมชําระหนี้ จนรุ่นน้องไม่มีเงินเรียนอยู่ตลอด แต่เรามองว่า เราไม่เคยคิดที่จะไม่ชำระหนี้และเห็นว่าการกล่าวเช่นนั้นไม่ถูกต้องและไม่เป็นธรรม ถ้าจะให้เราชำระหนี้ก็ควรทำให้ถูกต้อง ตอนนี้เราจึงต้องการให้ กยศ. คํานวณยอดออกมาที่ถูกต้องโดยเร็ว” ผู้กู้ กยศ. ระบุ